พระสมเด็จวัดระฆัง S-09 พลังพุทธานุภาพระดับ Super VIP |
โดยพระสมเด็จชุดนี้เนื้อพระมีส่วนผสมหลักคือผงปูนเปลือกหอยสุกและปูนเปลือกหอยดิบ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ มีหลายสีด้วยกัน สี น้ำตาล เทาออกขาว เทาออกดำ เขียว ชมพูเข้ม ชมพูอ่อน บางคนเข้าใจว่าเป็นสีแดงกวนอู สีแดงกวนอูจะออกแดงเข้มหรือสด ทำไมถึงเป็นสีชมพูคนส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงจุดประสงค์และความหมายของสีชมพู เข้าใจว่าเป็นสีประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันอังคาร แต่ไม่ได้เฉลียวคิดว่าเป็นวันราชสมภพของรัชกาลที่ 5 คือวันอังคาร การสร้างพระการผสมสีก็มีความแตกต่างกันไปแต่ละครก บางองค์ก็จะมีแม่สีติดอยู่ที่องค์พระบางจุด สีชมพูได้มาจากสีที่ทำเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ พระสมเด็จสีชมพูจึงเป็นพระเครื่องที่สร้างถวายเพื่อเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2411โดยนัยนี้
พระสมเด็จเนื้อปูนสุกปูนดิบจะมีการพัฒนาของเนื้อพระอย่างเป็นระบบ โดยเนื้อปูนสุก(ปูนที่ถูกเผาแล้วหรือปูนขาวจะกลายเป็นแคลเซียมออกไซด์เมื่อละลายน้ำจะเปลี่ยนเป็นแคลเซียมไฮดร็อกไซด์หรือน้ำปูนใสเมื่อทำปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ บางส่วนจะตกตะกอนเป็นฝ้าขาว ตกตะกอนเป็นแผ่นที่เรียกว่าตะกรัน) เนื้อปูนสุกจะมีการงอกของเนื้อพระในส่วนต่ำ ..ปูนดิบ(แคลเซียมคาร์บอเนตละลายน้ำน้อยเมื่อตกผลึกจะเป็นแร่ แคลไซท์ สีขาวใส แบบเดียวกับผลึกหินอ่อน) เนื้อปูนดิบจะมีการงอกบนส่วนนูนสูง มีการพัฒนาช้ากว่าปูนสุก ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ยกเครดิต ให้ ดร.แสวง รวยสูงนูน การพัฒนาของเนื้อพระสีเทาออกขาวหรือออกดำจะเห็นได้ชัดเจนกว่าพระสีอื่นๆ
พระตัวอย่างที่นำเสนอในส่วนปูนสุก จะเห็นฝ้าขาวตกตะกอนเป็นแผ่นแบบตะกรันมากบ้างน้อยบ้าง ส่วนปูนดิบที่มีการงอกบนส่วนนูนสูงที่เห็นชัดเจน ซุ้มครอบแก้ว องค์พระ โดยเฉพาะฐานพระทั้ง 3 ชั้น ฐานชั้นล่างสุดถ้าพระองค์ไหนมีการยุบตัวตรงกลางก็จะมีการงอกของเนื้อพระปูนดิบในส่วนสันนูนทั้ง 2 ข้าง เปรียบเสมือนกำแพงเมืองจีนผุดขึ้นมา ตรงส่วนยุบเป็นทางเดิน การงอกของเนื้อพระตรงนี้จะมีน้ำมันตังอิ๊วผุดขึ้นมาบนยอดกำแพงเมืองจีนอีกชั้นหนึ่งสวยเป็นธรรมชาติ ยากต่อการทำเลียนแบบ ส่วนพื้นราบเหมือนหิมะขาวโพลนไปหมดสูงบ้างต่ำบ้างเกิดจากปูนสุก พระสมเด็จในวาระนี้สีอื่นมีการพัฒนาไม่เหมือนเนื้อนี้สีนี้เช่น สีน้ำตาล เขียว ชมพู แม้ในวาระอื่นๆก็ยังแตกต่างกันอย่างชัดเจน พระสมเด็จที่กล่าวถึงนี้เหมาะที่จะสะสมเป็นเนื้อครู ณ เวลานี้ค่อนข้างหายากแล้วเพราะคนรู้จะเก็บไว้หมด อีกอย่างการปลอมแปลงก็ทำได้ยากกว่าเนื้ออื่นๆ พระสมเด็จชุดนี้เคยโพสลงในบอร์ดพลังจิตประมาณปี พ.ศ. 2553 โดยกระทู้ฉบับเต็มถูกลบไปแล้วเพราะโปรโมทพระมีค่าบริการไม่ได้ต่อเวลาก็ถูกลบกระทู้ทิ้ง เหลือกระทู้ย่อย เวลานั้นให้บูชาอยู่ที่องค์ละ 10,000 บาท พระสมเด็จชุดนั้นยังสวยสู้พระสมเด็จชุดนี้ไม่ได้ เวลานี้ก็ขยับราคาขึ้นไปอีกตามความเหมาะสม คนที่เข้ามาพบเจอบทความเก่านั้น เมื่อพบเจอพระชุดนี้ที่ไหนก็จะรีบเก็บทันทีพระสมเด็จวัดระฆังวาระนี้ อ.นก เคยนำมาเผยแพร่ให้สมาชิกได้เรียนรู้ โดย อ.นกเรียกพระสมเด็จพิมพ์หลังร่องสวนนี้ว่า หลังกระดองเต่าพันปี ไม่กี่วันต่อมาข้าพเจ้าก็ได้พระสมเด็จพิมพ์นี้มาครอบครองหลายองค์ ข้าพเจ้าถามผู้ขายว่าได้มาอย่างไร เขาบอกว่า ได้มาจากผู้หญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเป็นพระเก่าเก็บจากบ้านเจ้านายเข้าใจว่าจะมีเชื้อเจ้า เป็นวังเจ้าอยู่หลังสวนวัดระฆังในสมัยนั้น ข้าพเจ้าก็เก็บสะสมไว้ได้จำนวนหนึ่ง และได้นำมาโพสลงในเว็บของ อ.นก และเริ่มเรียกว่าพระสมเด็จพิมพ์นี้ว่าพิมพ์หลังร่องสวน หรือพิมพ์หลังสวน อ.นก ได้นำพระพิมพ์นี้ 2 องค์มาโพสลง โดยบอกว่าเป็นของนายพล 2 ท่าน บูชามาองค์ละ 30 ล้านบาท ไม่กี่วันต่อมาถูกลบข้อมูลทิ้ง เพราะมีหนังสือองค์งามออกมาปรากฏให้เห็น พระเครื่องส่วนใหญ่เป็นพระสมเด็จตระกูลเปลือกไม้ หลังร่องสวน เซียนพันทิพก็มีพระสมเด็จพิมพ์นี้เปิดให้บูชาที่ 30 ล้านบาท ก็ต้องเก็บเข้ารังของตัวเองไป มีเด็กคนหนึ่งมาบอกข้าพเจ้าว่าเขาได้ไปคุยกับเซียนคนนี้แล้วเขาเปิดราคาไว้ ที่ 30 ล้านบาทและถ่ายรูปมาให้ข้าพเจ้าดู เด็กคนนี้เห็นพระของข้าพเจ้าแล้วก็ติดต่อขอบูชาไปหนึ่งองค์ในเวลานั้น
สรุป พระสมเด็จแท้พิมพ์ไหนเนื้อไหนถ้ามีจำนวนมากเซียนจะไม่เล่น เพราะเล่นแล้วปั่นราคาไม่ได้
พระสมเด็จวัดระฆังวาระนี้มีพลังพุทธานุภาพสูงกว่ามาตราฐานพระเซียนเพราะ พระสมเด็จที่เซียนเล่นเป็นพระที่ทำไปแจกไป พระแต่ละเนื้อจึงมีจำนวนน้อยถึงจะเป็นพิมพ์เดียวกัน แต่ละวันการสร้างพระแต่ละครกไม่มีเหมือนกัน อยู่ที่ส่วนผสมและคนที่ตำมวลสาร วันนี้อาจเป็นคนนั้นวันนั้นอาจเป็นคนนี้มือหนักเบาในการผสมมวลสารที่ต่างกัน พอสร้างเสร็จพระแห้งดีแล้วองค์หลวงปู่โตก็นำไปปลุกเสกอธิษฐานจิตแล้วเสร็จก็นำไปแจกคนที่ใส่บาตรกับหลวงปู่บ้าง ประชาชนที่มาขอไปบูชาบ้าง ฯ ซึ่งต่างจากพระสมเด็จในวาระนี้ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2411 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่ 5 พระเครื่องที่สร้างในวาระนี้ถือว่าสุดยอดที่สุดของประเทศไทย ไม่มีพระเครื่องวาระอื่นใดเทียบได้( ยกเว้น พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล ) เนื่องจากว่าในเวลานั้น พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องมีพิธีทั้งทางพุทธและพราหมณ์ โดยมีสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระมหาอุปราชวังหน้า กรมหมื่นบวรวิไชยชาญเป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศในยุคสมัยนั้นเข้าร่วมปลุกเสกอธิษฐานจิตด้วย องค์หลวงปู่โตได้อัญเชิญอทิสมานกายสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ พระอรหันต์ทีมีฤทธิ์ทั้งหลาย คณะหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด เทวดาทุกชั้นฟ้า (อทิสมานกายเป็นกายละเอียดที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) มาร่วมอธิษฐานจิต จึงทำให้พระเครื่องในพิธีนี้มีพลังพุทธานุภาพที่สูงกว่าพระเครื่องในยุดใด พ.ศ. ใด พระเครื่องในวาระนี้ก็ยังมีพลังพุทธานุภาพที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับมวลสารด้วย และพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลในตำนานว่ามีการสร้าง 99 องค์ปลุกเสก 99 ครั้ง ก็ได้นำเข้ามาอธิฐานจิตปลุกเสกเป็นครั้งสุดท้ายคือครั้งที่ 99 ในครั้งนี้
1. พระสมเด็จวัดระฆัง พลังพุทธานุภาพระดับมาตราฐาน สร้างไปแจกไป พระสมเด็จชุดนี้จะอยู่กับ เจ้าสัว และเศรษฐีทั่วไป พระที่เล่นหากันอยู่ในขณะนี้ พระที่นำมาโชว์ในนิตยสารพระเครื่องทั่วไป พระสมเด็จที่คนกลุ่มหนึ่งหลงไหลได้ปลื้มกับคำพูดของเซียนพระ
2. พระสมเด็จวัดระฆัง พลังพุทธานุภาพระดับ VIP (สูงกว่าพระสมเด็จมาตราฐานไม่เกิน 50 เท่า)มีพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ของวัดระฆังสร้างในวาระครบรอบคล้ายวันเกิดขององค์สมเด็จโต พระสมเด็จหลายวาระที่มีเหล็กไหลฝังอยู่ (ข้าพเจ้ามีหลายองค์หลายพิมพ์หลายเนื้อ ความสามารถพิเศษของตัวข้าพเจ้า) พระกริ่งหลายวาระที่หลวงปู่โตปลุกเสกอธิษฐานจิต พระชุดนี้อยู่กับเศรษฐีน้อยคน และบุคคลทั่วไปที่มีบารมีชอบสวดมนต์ ท่องพระคาถาชินบัญชร
3. พระสมเด็จวัดระฆัง พลังพุทธานุภาพระดับ SUPER VIP (สูงกว่าพระสมเด็จมาตราฐานตั้งแต่ 50-100 เท่า) ได้แก่พระเครื่องพระสมเด็จที่สร้างปี พ.ศ. 2411 พระชุดนี้อยู่กับคนที่มีบารมีสูงกว่ากลุ่มที่ 2 คนกลุ่มนี้นอกจากสวดมนต์แล้วชอบปฏิบัติธรรม ชอบทำบุญทำทานโดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วยคนยากไร้ ฯลฯ
4. พระสมเด็จวัดระฆัง พลังพุทธานุภาพระดับ DOUBLE SUPER(พลังพุทธานุภาพสูงกว่ามาตรฐาน 100 เท่าขึ้นไป)ได้แก่ พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลที่อยู่ในบล็อกนี้ สร้างพิเศษมีน้อยหายาก จะอยู่กับคนที่มีบารมีสูงกว่า 3 กลุ่มแรก พอมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยแล้วว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มไหน ได้พระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลมาได้ยังไงและรู้ได้อย่างไรว่าพระที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงสร้าง 99 องค์ปลุกเสก 99 ครั้ง มวลสารพระธาตุ เหล็กไหลหลากชนิด ฯลฯ คุณต้องกลับไปอ่านบทความเดิมครับ ส่วนพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพลที่ข้าพเจ้าครอบครองอยู่ในเวลานี้เก็บรักษาไว้รอคนมีบุญและบารมีมาขอบูชาต่อไปครับ มีคนโทรมาถามพระสมเด็จพิมพ์ยอดขุนพล เขามีอาการขนลุกทั้งตัวตลอดเวลา มีคนสัมผัสพลังโดยตรงแรงมากพุ่งเข้าหัวใจต้องรีบถอนสมาธิทันที ไม่สามารถสัมผัสพลังอันแรงมากได้ทั้งหมด มีอาการเหนื่อยจะหมดแรงฯ
ถ้าอยากรวยให้ทำทาน พระท่านกล่าวไว้อย่างนั้น พวกเศรษฐีทั้งหลายชอบบริจาคทาน ช่วยคนประสบภัยต่างๆ ตั้งโรงทาน โรงเจ มูลนิธิฯเพื่อช่วยคนที่ด้อยโอกาส บุญใช้ไปก็หมดไป ต้องสร้างใหม่ตลอดเวลา เศรษฐีเกิดเป็นยาจก ยาจกเกิดเป็นเศรษฐี เศรษฐีเกิดเป็นสุนัข ก็คงเคยได้ยินพระท่านเทศน์มาบ้างแล้ว ...ครั้งหนึ่งมีพระเถระเที่ยวบิณฑบาตมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านของมิคารเศรษฐี นางวิสาขาทราบดีว่าท่านเศรษฐีแม้เห็นก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น นางจึงกล่าวกับพระเถระว่า "นิมนต์พระคุณเจ้าไปข้างหน้าก่อนเถิดท่านเศรษฐีกำลังบริโภคของเก่าอยู่" เพราะในเวลานั้นท่านเศรษฐียังนับถือนักบวชอเจลกชีเปลือย จากข้อความนี้ทำให้เข้าใจยิ่งขึ้นว่า บุญใช้ไปหมดไป ถ้าไม่มีการสร้างบุญใหม่
บารมี ต้องสร้างสะสมมาหลายภพชาติ เกิดจากการรักษาศีล ปฏิบัติ ภาวนา คนกลุ่มนี้หวังความหลุดพ้น เร่งปฏิบัติภาวนา แต่บารมียังไม่เต็ม(บุคคลธรรมดาหมายถึงพุทธสาวกสร้างบารมีอย่างน้อยแสนมหากัปจึงจะสำเร็จมรรคผล) ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป การทำบุญให้ทานจึงมีน้อย เพราะเผลอนั่งปฏิบัติธรรมนานไปหน่อยลืมสะสมเสบียงไว้ใช้ภพหน้า ฉนั้นต้องทำบุญให้ทานและปฏิบัติธรรมรักษาศีลภาวนาไปพร้อมกัน
บุญและบารมีมีความต่างกันแต่ส่วนใหญ่จะพูดรวมกัน
ณ ถึงเวลานี้อาจพูดได้ว่าทุกคนที่โทรศัพท์เพื่อคุยสอบถามรายละเอียดเพื่อขอบูชาพระเครื่องของข้าพเจ้า เขาสามารถสัมผัสกระแสพลังคุณพระได้หมด (มีคนไทยในอเมริกาที่ยังไม่สามารถสัมผัสพลังได้)ซึ่งเขาเหล่านั้นไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอธิบายได้ยาก ให้ใช้วิจารณญานในการพิจารณานะครับ
สนใจพระองค์ไหนติดต่อขอบูชาได้ครับ เรื่องตัวเลขอยู่ที่ความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย โทร 092 339 5410
พระสมเด็จวัดระฆัง SD-23 |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-10 หลังเปลือกไม้ใหญ่ |
พระสมเด็จวัดระฆัง LS-01 |
พระสมเด็จวัดระฆัง LS-03 หลังหนังจระเข้ |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-12 |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-07 |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-05 |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-13 สีชมพูอ่อนวันราชสมภพของรัชกาลที่ 5 |
พระสมเด็จวัดระฆัง S-50 พิมพ์ใหญ่จีวร หลังยันต์ |
พระสมเด็จวัดระฆัง ปส-01 หลังร่องสวน |
การงอกของเนื้อปูนสุกและปูนดิบอย่างเป็นระบบ |
การงอกของปูนดิบบนซุ้มระฆัง ฝ้าขาวหรือตะกรันจากการงอกของเนื้อปูนสุก |
พระสมเด็จวัดระฆัง ปส-02 |
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์โย้ สร้างปี พ.ศ. 2411 |
คลิกลิงก์ ห้อยพระถูกโฉลก # 2