วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ๋ 3 กษัตริย์

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 3 สี สร้างปีพ.ศ. 2411
           พระสมเด็จวัดระฆังที่สร้างในปี พ.ศ. 2411 มีมากมายหลายเนื้อหลายพิมพ์ พระสมเด็จชุดนี้อยู่ในตระกูลหลังเปลือกไม้ ผสมสีประจำวันลงไป 3 สีมี ดำ แดง น้ำเงิน จะต่างจากพระสมเด็จกรมท่า หรือเบญจสิริที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง การผสมสีไม่รวมตัวกันให้เกิดสีใหม่หรือแยกตัวออกจากกันแบบพระสมเด็จเบญจสิริ เนื้อปูนหลักคือปูนสุกและปูนดิบ มวลสารสำคัญของพระสมเด็จ จะเห็นการงอกของเนื้อพระปูนสุกและปูนดิบ โดยเฉพาะการงอกของปูนดิบที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันมากนักในพระสมเด็จ เนื่องจากการนำมาห้อยบูชาและมีการเสียดสีผิวพระ ทำให้ไม่เห็นการงอกของเนื้อปูนดิบ พระปูนดิบที่ไม่ผ่านการใช้มีการพัฒนาของปูนดิบงอกขึ้นมาในส่วนนูนขององค์พระ บนสันนูนของครอบระฆัง องค์พระส่วนนูนสุด ฐานพระตามแนวสันนูน เช่นเดียวกับบทความอื่นที่นำเสนอไปแล้ว ส่วนพื้นผิวส่วนต่ำการงอกของเนื้อปูนสุกเนื้อฟูน้อยๆมีคราบปูนปกคลุมอยู่เป็นธรรมชาติ



บนพระพักตร์ เส้นครอบระฆัง เกิดการงอกของเนื้อปูนดิบและมีตังอิ๊วขึ้นคลุมอยู่ชั้นบนสุด












ลักษณะการงอกของเนื้อปูนสุกและดิบเป็นธรรมชาติ

ส่วนนูนหรือส่วนสูงที่เห็นเนื้อปูนดิบงอกขึ้นมาและมีตังอิ๊วคลุมอยู่อีกชั้นหนึ่ง

การงอกของเนื้อพระเก่าอายุ 147 ปี ยากต่อการเลียนแบบ


วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แม่นางกวัก หลวงปู่โตอธิษฐานจิต

# นางกวักคู่หลังครุฑ 
        นางกวักคู่นี้ท่านมาอยู่กับข้าพเจ้าเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากได้ แม่นางกวักพิมพ์เล็บมือหรือพิมพ์แบบซุ้มกอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำองค์แม่นางกวักเป็นเทพธิดา เทพธิดาจะมีบุญบารมีสูงกว่านางฟ้า โดยเทพธิดาจะมีวิมานของตัวเอง ส่วนนางฟ้าไม่มีวิมานของตัวเองต้องอาศัยรับใช้อยู่เป็นบริวารของเทพธิดา หรือเป็นสนมกำนัลในที่เป็นภรรยาน้อยของเทพบุตรเจ้าของวิมาน   นางอัปสรเป็นนางฟ้าชั้นต่ำสุดคือเป็นนางฟ้าบริการ เทพบุตรองค์ไหนจะเรียกไปหลับนอนก็ได้แต่คงมีกฎของสวรรค์ในการเรียกไปหลับนอนได้คราวละเท่าไหร่ (ในอดีตชาติพระอานนท์ก็เคยเกิดเป็นนางฟ้าบริการหรือนางอัปสรมาแล้วเช่นกัน)             
           นางอัปสรมีบุญที่ได้เกิดเป็นนางฟ้าบริการ แต่ไม่มีวิมานของตัวเอง ไม่มีคู่เป็นตัวเป็นตน  คล้ายเรื่องของปุโรหิตแห่งเมืองพาราณสีที่ไม่ชอบรักษาศีลมีแต่กินสินบนในการตัดสินคดีความอยู่เสมอ อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันอุโบสถ พระเจ้าพาราณสีตรัสถามปุโรหิตว่า อาจารย์รับศีลอุโสถแล้วหรือยัง ท่านปุโรหิตก็ทูลตอบว่ารับแล้วพระเจ้าข้า เวลาออกจากที่เฝ้า มีอำมาตย์ผู้หนึ่งทักท้วงขึ้นว่าท่านยังไม่ได้รับอุโบสถมิใช่หรือ ปุโรหิตก็ตอบว่าใช่ แต่ว่าจะไปรับที่บ้านเย็นวันนี้เราจะไม่รับอาหาร พอถึงบ้านก็ตั้งใจถือศีลอุโบสถ วันนั้นมีผู้หญิงมีคดีคนหนึ่งรับศีลอุโบสถ และค้างอยู่ที่นั้น ปุโรหิตจึงได้คั้นน้ำมะม่วงให้เป็นน้ำอัฎฐบาลให้ทานแก่หญิงนั้น ต่อมาเมื่อปุโรหิตได้ตายลง ก็ไปเกิดในวิมานทองคำที่ป่าหิมพานต์มีสวนมะม่วงทิพย์กว้างใหญ่ถึง 3 โยชน์ มีนางฟ้าเป็นบริวารเสวยทิพย์สมบัติตลอดคืน พอเช้าขึ้นมาก็ไปสวนมะม่วง พอไปถึงก็กลายเป็นเปรตสูงเท่าลำตาล มีไฟลุกแดงทั้งตัว จิกข่วนเนื้อที่หลังของตัวเองมากินร้องไห้ทนทุกขเวทนาตลอดวัน พอค่ำลงก็เป็นเทวดาอยู่ที่วิมานของตน เป็นอย่างนี้เสมอมา 
       เรื่องบาปบุญที่ทำในเวลาไหนก็ให้ผลตรงกับเวลานั้น เว้นแต่บาปบุญโดยมากไม่ให้ผลพร้อมกัน ถ้าให้ผลพร้อมกันต้องให้เวลาต่างกันเหมือนเรื่องของปุโรหิตฯ

แม่นางกวักคู่ประดับอัญมณีลงรักปิดทองเก่า
         นางกวักมีอยู่ 2 ตำนาน

      1. นางกวักเป็นธิดาของปู่เจ้าเขาเขียวและเป็นสหายกันกับท้าวอณาราชซึ่งเป็นพญายักษ์ที่ถูกพระรามแผลงศรใส่หน้าอก ศรนั้นทำด้วยต้นกก คนทั่วไปเรียกพญายักษ์นั้นว่าท้าวกกขนาก และพระรามได้สาปให้พญายักษ์อยู่ในเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี อยู่อย่างนั้นจนถึงพระศาสนาของพระศรีอารย์ นางประจันทร์ธิดาของท้าวอณุราชได้มาเฝ้าเป็นเพื่อนบิดาและนำใยบัวมาทอเป็นจีวรเตรียมไว้ถวายคราวพระศรีอารย์เสด็จมาถึง เป็นการสร้างบุญกุศลให้บิดา ขณะนั้นชาวบ้านกลัวว่านางประจันทร์จะนำน้ำส้มสายชูไปหล่อหรือเทราดรดศรพระรามให้หลุดออกมา จึงขับไล่นางออกไปจากที่นั้นเสีย ปู่เจ้าเขาเขียวที่เป็นสหายกับท้าวอณุราชทราบเรื่องจึงส่งธิดาที่มีรูปโฉมงดงามมาเป็นเพื่อนนางประจันทร์ จากนั้นต่อมาชาวบ้านที่เคยเกลียดชังนางประจันทร์มาก่อนก็กลับใจรักใคร่ นำอาหารของกำนัลต่างๆมาให้นางประจันทร์มิได้ขาด ความเกลียดชังได้หมดสิ้นไป ด้วยเหตุนี้นางประจันทร์จึงตั้งชื่อธิดาของปู่เจ้าเขาเขียวว่า "นางกวัก" ด้วยความมหัศจรรย์อย่างนี้สัตบุรุษทั้งหลายจึงให้อาจารย์ที่มีมนต์ขลังสร้างรูปนางกวักขึ้นมาเพื่อสักการบูชา เพื่อผลทางด้านเมตตาค้าขายฯ
             2. ในสมัยพุทธกาลสองสามีภรรยามีอาชีพค้าขาย มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ"สุภาวดี" ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมาเพื่อบรรทุกสินค้าไปขายถิ่นอื่น นางสุภาวดีก็ขอติดตามไปด้วย ขณะแวะพักขายสินค้า ทำให้นางสุภาวดีมีโอกาสได้พบกับ พระกัสสปเถระ และได้ฟังธรรมกับพระเถระ พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตประสิทธิประสาทพรให้แก่นางสุภาวดีและครอบครัวทุกครั้งที่นางสุภาวดีไปฟังธรรมจนจบและอำลาจาก ด้วยกุศลบารมีนางสุภาวดีได้ฟังธรรมกับพระสีวลีเถระอีกองค์หนึ่ง นางฯจึงมีความรู้แตกฉานทางธรรมยิ่งขึ้น
       นางสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึง 2 องค์ เมื่อนางไปค้าขายกับบิดาทุกครั้งมีแต่กำไรไม่มีขาดทุน บิดาของนางรู้ว่าธิดาของตัวเองเป็นผู้พร้อมด้วยสิริมงคล ทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ผ่านไปไม่นานมีทรัพย์สินเท่ากับเศรษฐีธนญชัยบิดาของนางวิสาขา บิดาของนางได้ปฏิบัติและฟังธรรมด้วยความศรัทธา ได้สร้างถาวรวัตถุในทางพระพุทธศาสนามากมาย ด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากบุญบารมีของนางสุภาวดี  ผู้คนทั้งหลายต่างรับรู้เรื่องราวและบุญบารมีของนาง เป็นที่มาของความร่ำรวยเงินทองโชคลาภทางการค้าขาย แม้นางได้เสียชีวิตลง ก็มีการเล่าขานสืบต่อกันมา มีผู้นับถือนางสุภาวดีได้ปั้นรูปปั้นของนางเพื่อบูชาเพื่อขอให้การค้าเจริญรุ่งเรือง
       หลวงปู่โตก็ได้สร้าง รูปนางกวักแบบพระเครื่องเพื่อติดตัวห้อยบูชา ขณะนี้ได้มา 2 พิมพ์ มีเจ้าของเกือบหมดแล้วขณะนี้เหลือ 2 องค์ๆที่ 2 และ 3 นางกวักคู่ประดับพลอยลงรักปิดทอง
       ด้านพุทธานุภาพเด่นทาง เมตตา ค้าขาย โชคลาภ




แม่นางกวักหลังตะเพียนเงินตะเพียนทอง
         แม่นางกวักล้างรักเก่าออกหมด เห็นสภาพผิวพระเก่า แม่นางกวักทั้ง 2 พิมพ์สร้างในปี พ.ศ. 2411 ในการเฉลิมฉลองการครองราชย์ของรัชกาลที่ 5 ด้านพลังพุทธานุภาพนับว่าสูงมากทีเดียว ยากจะหานางกวักที่ไหนมาเทียบได้


แม่นางกวักประดับพลอย ด้านหลังรูปหลวงปู่โต องค์นี้สภาพเดิมเหมือนองค์ล่าง ท่านมาอยู่ด้วย


แม่นางกวักล้างรักก่าออกหมดแล้วลงรักปิดทองใหม่ให้สวยงาม

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ลุงพุฒ 2 หน้าพลังพุทธานุภาพสูงกว่าพระสมเด็จพิมพ์ลุงพุฒหน้าเดียว
              พระสมเด็จพิมพ์ 2 หน้าหายากแล้ว พิมพ์ลุงพุฒ 2 หน้า พระสมเด็จยุคปลายยิ่งหายากกว่า ในเว็บต่างๆก็ยังไม่เคยเห็น ส่วนใหญ่อยู่กับคหบดีไม่นำออกมาโชว์ให้รู้เห็นเป็นที่หวงแหน พระไม่ผ่านการใช้มวลสารชัดเจน คราบปูนหรือแป้งโรยพิมพ์ยังเกาะติดอยู่ รอยปริแตกเป็นธรรมชาติ ตรวจสอบในเว็บพระอื่นๆแล้วยังหาได้ยาก


พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.01
     พระสมเด็จพิมพ์ 2 หน้าสร้างน้อยหายาก มีหลายเนื้อหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่ที่นำมาเสนอเป็นพระยุคกลาง พิมพ์หลวงวิจิตร หลวงวิจารย์(ยุคต้นของหลวงวิจารย์ เส้นซุ้มครอบแก้วแบบเส้นขนมจีน) พระสมเด็จพิมพ์ 2 หน้าจะมีพลังพุทธานุภาพสูงกว่าพระสมเด็จทั่วไปหรือพระสมเด็จหน้าเดียว เพราะมีเทวดาคุ้มครองเพิ่มอีก 1 องค์เป็น 2 องค์  เนื้อสีขาวแบบหินอ่อน

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.02

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.03

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.04

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.05

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.06

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.07

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.08

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.09

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2 หน้า no.10

       

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระหลวงปู่เทพโลกอุดรเนื้อโลหะพิมพ์ยืน

พระหลวงปู่เทพโลกอุดรเนื้อโลหะ  ( 1-2-3 )

      พระหลวงปู่ใหญ่หรือหลวงปู่เทพโลกอุดรมีหลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ที่สร้างเป็นเนื้อโลหะจะมีน้อย พิมพ์ยืนหรือยืนพิจารณาธรรมเพื่อจะก้าวย่างไปทางไหนหรือกำลังจะเดินจงกรม สร้างน้อยหายากส่วนเนื้อโลหะพิมพ์อื่นข้าพเจ้ายังไม่มีเลยบอกไม่ได้ยังมีพิมพ์อะไรอื่นอีก พระเนื้อโลหะสัมฤทธิ์เก่า ของเทียมเลียนแบบยังไม่เห็นเพราะพิมพ์นี้มีออกมาให้เห็นน้อยมาก และส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครรู้หรือสนใจ พอมีใครรู้ก็เก็บไปบูชาหมด พุทธานุภาพสูงกว่าพระสมเด็จวัดระฆังทั่วไป เด่นเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาด ฯ

    สนใจติดต่อบูชาได้ครับ โทร 092 339 5410





พระหลวงปู่ใหญ่เนื้อโลหะ สูง 6 ซม. กว้าง 1.6 ซม. ( 4-5-6 )


พระหลวงปู่เทพโลกอุดรเนื้อโลหะ  ( 7-8-9-10 )