วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

พระกริ่งปวเรศEP21(พิมพ์สายหน้าจีน พ ศ 2400)หลังจาร ป.ว.ร.

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สายหน้าจีนจีวรลายดอกพิกุลชุดนี้สร้างปี พ.ศ.๒๔๑๐ สมัยรัชกาลที่ ๔ นำพระกริ่งปวเรศต้นแบบปี พ.ศ.๒๓๘๐ สมัยรัชกาลที่๓ มาสร้างอีกครั้ง ได้มีพ่อค้าคนจีนที่เข้ามาค้าขายในกรุงสยามได้นำพระกริ่งจีนใหญ่ พระกริ่งจีนนอก เข้ามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เนื้อพระเป็นโลหะผสมสัมฤทธิ์ สีออกเหลือง แดง แบบ ทองม้าฬ่อ พ่อค้าชาวจีนนิยมนำติดตัว เพื่อคุ้มครองป้องกันภัย เพราะ พระกริ่ง คือ รูปจำลอง องค์พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ๑ ใน ๓ พระพุทธเจ้า ที่เคารพสูงสุดของชาวพุทธลัทธิมหายานเชื่อว่ามีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิ่งป้องกันตัวเองโดยเฉพาะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ที่คนจีนศรัทธาเป็นอย่างมากที่นำพระกริ่งมาทำน้ำมนต์ดื่มกินรักษาโรค ซึ่งเป็นแบบอย่างในการสร้างพระกริ่งแห่งสยาม พระกริ่งต้นแบบของสยามน่าจะเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ไม่ใช่เนื้อนวโลหะอย่างที่หลายคนคิดหรือทำให้คิดว่าเป็นแบบนั้น การสร้างพระกริ่งเนื้อโลหะครั้งแรกๆก็ต้องมีคนแนะนำก็คงต้องเป็นช่างทองชาวจีน ซึ่งก็ได้ความรู้ที่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น พระกริ่งจีนนอกเป็นเนื้อทองดอกบวบและพระกริ่งปวเรศยุคต้นๆบางชุดสีผิวแบบเนื้อทองดอกบวบที่ผิวพระเป็นสีน้ำตาลเปลือกมันเทศแต่ด้วยอายุของการสร้างที่ต่างกันหลายร้อยปี พระกริ่งปวเรศเนื้อทองดอกบวบจะให้เหมือนพระกริ่งจีนนอกคงไม่ได้ แต่พอสังเกตุให้รู้ การแกะบล็อกพระกริ่งพิมพ์นี้จึงมีเค้าใบหน้าไปทางคนจีน และองค์พระกริ่งที่สร้างเสร็จแล้วจะมีการตกแต่งองค์พระน้อยมาก ต่างจากพระกริ่งปวเรศเนื้อนวกลับดำที่มีช่างตกแต่งพระกริ่ง 2 คน ทำให้พระกริ่งปวเรศแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน เคยได้ยินเซียนพระคนหนึ่งบอกว่าพระกริ่งปวเรศต้องหาองค์ที่มีปากแบบปลากัดหรือปากจู๋ เขาว่ามาอย่างนั้น บางทีก็ไปดูการตกแต่งองค์พระ พระกริ่งปวเรศชุดนี้เนื้อสัมฤทธิ์โชคหรือสัมฤทธิ์เหลืองผิวองค์พระเป็นสีเหลืองหรือขันลงหิน ผิวโลหะชั้นนอกเป็นสนิมโลหะสีน้ำตาล ผิวโลหะชั้นที่ ๒ เป็นสีเหลือง รอยจารจะอยู่ที่ผิวโลหะชั้นที่ 2 ไม่ถึงเนื้อจริงถ้าจารถึงเนื้อจริงโลหะตรงนั้นจะขึ้นเงามีสีเหลืองสดใส เศรษฐีท่านใดที่ได้ครอบครองพระกริ่งปวเรศล้วนบอกว่าของตัวเองเป็นของแท้ทั้งนั้น ผมก็ขอพูดบ้างว่าพระกริ่งปวเรศที่ท่านครอบครองอยู่นั้นพลังพุทธานุภาพยังไม่สูงเท่ากับพระกริ่งปวเรศชุดนี้เลย ระดับท่านคงหาคนที่สามารถสัมผัสพลังพระได้ไม่ยาก ให้คนสัมผัสพลังพระของท่านและพลังพระกริ่งปวเรศชุดนี้ดูก็จะรู้ว่าพระกริ่งปวเรศองค์ไหนมีพลังที่สูงกว่ากัน คนที่สัมผัสพลังพระที่ไม่จำเป็นต้องจับองค์พระแค่มองที่รูปพระก็สัมผัสพลังได้ต้องแบบนี้ แอบมาส่องพระกริ่งปวเรศชุดนี้หรือชุดอื่นๆที่ผมโพสนำเสนอโดยเฉพาะพระกริ่งปวเรศที่อธิษฐานจิต ๓๐พรรษาขึ้นไป แล้วคนที่สัมผัสพลังคนนั้นจะบอกกับท่านเองว่าพระกริ่งปวเรศชุดนี้ถึงจะเป็นจักรพรรดิ์ของพระกริ่งไม่ใช่ของท่าน ความจริงพิสูจน์ได้ครับ พระกริ่งปวเรศองค์นี้ผิวสีน้ำตาลทั้งองค์แต่ตามซอกลึกจะมีสีดำสนิมโลหะเนื้อเงินคือไม่ได้สีน้ำตาลทั้งองค์เลยต่างจากพระใหม่ที่ใช้สีทาจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเหลืองทั้งองค์ตามที่เคยบอกไปแล้วหลายครั้ง พระกริ่งปวเรศองค์นี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ รุ่นเดียวกับพระกริ่งปวเรศปราบฮ่อหรือปราบเงี้ยวไม่ทันหลวงปู่โต กรมพระยาปวเรศเป็นผู้อธิษฐานจิตปลุกเสก พระกริ่งปวเรศองค์นี้มอบให้ทหารชั้นผู้ใหญ่หรือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่ไปร่วมปราบฮ่อ เพราะองค์พระกริ่งปวเรศมีตอกหมุดทองคำ ฝีมือช่างใช้หมุดทองคำตอกลงไปในรูที่เจาะไว้แล้วสังเกตุหมุดทองคำที่หลุดออกมาตรงนั้นจะมีรูสำหรับตอกหมุดเข้าไป ไม่ใช่ใช้ยางรักทาแล้วนำแผ่นทองที่เตรียมไว้ปิดลงไป หรือพระโรงงานจะใช้สีทองทา สังเกตุผิวโลหะมีความเก่าธรรมชาติไม่เรียบตึงและมัน https://www.facebook.com/PhraSomdejWatRakhanggenuine 092 339 5410,080 629 2955

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น