วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผน หรือพระขุนแผนเนื้อวัดระฆัง

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผนด้านหน้าเนื้อขาวนิยม

พระสมเด็จวัดระฆัง

  หลวงปู่โตเป็นลูกศิษย์ของขรัวตาแสงแห่งวัดมณีชลขันธ์ ลพบุรี หลวงปู่โตได้เรียนวิชาย่นระยะทาง การสร้างพระเครื่อง

  วิชาย่นระยะทางมีการกล่าวถึงหลายครั้ง เรื่องที่มีเจ้าภาพนิมนต์หลวงปู่ไปงานมงคลแห่งหนึ่งแต่ระยะทางไกลมากต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันแต่หลวงปู่โตออกเดินทางช้ากว่านั้นคือหลวงปู่ออกเดินทางก่อนเวลางานเพียง 3 ชม. แต่หลวงปู่โตไปทันงานนั้น ซึ่งก็มีการถามเจ้าภาพแล้วว่าหลวงปู่โตไปถึงก่อนเวลางาน

   หลวงปู่โตมักจะหายตัวไปบ่อยๆที่หลายครั้งพระเจ้าอยู่หัวต้องให้คนมาตามว่าท่านอยู่ไหน สบายดีหรือเปล่า เขาพูดกันว่าหลวงปู่โตมักจะไปเมืองลับแลหรือเมืองบังบดไปแดงธรรมให้ชาวบังบดฟังและหลวงปู่โตมักไปอยูที่นั้นนานๆ แต่พอหลวงปู่โตได้ข่าวว่ามีคนจากพระเจ้าอยู่หัวมาตามท่านๆก็จะมาทันที เพราะเมืองลับแลนั้นเขาว่าอยู่แถวหลังพระพุทธบาทสระบุรี หลวงปู่โตใช้วิชาย่นระยะทางมาเมืองลพบุรีแป๊บเดียว มาเจอมหาดเล็กของพระเจ้าอยู่หัว เพื่อไม่ให้พระเจ้าอยู่หัวต้องเป็นกังวล

   การไปเมืองลับแลนั้นหลวงปู่โตได้รับวัตถุธาตุศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างที่ชาวบังบดถวายให้เพื่อนำมาผสมลงในพระเครื่องที่หลวงปู่โตจะสร้างไว้สืบทอดพระศาสนาต่อไป

   เมื่อหลวงปู่โตเรียนวิชาจนหมดสิ้นจากขรัวตาแสงแล้ว หลวงปู่โตคิดจะสร้างพระเครื่องขึ้นมาเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ในเวลานั้นยังคิดหาแม่พิมพ์หรือแบบที่สร้างยังไม่ได้ หลวงปู่โตจึงนำพระกรุต่างๆมาสร้าง ที่เขาเรียกว่าสร้างล้อพิมพ์ มีพิมพ์ พระขุนแผน พิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์พระพุทธชินราช พิมพ์พระรอด ฯลฯ พระเครื่องชุดนี้มีสร้างไว้ไม่มากเนื่องจากเริ่มที่จะสร้างและยังหาเอกลักษณ์ไม่ได้ ซึ่งต่อมาก็ได้พระพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฝักและพัฒนาเนื้อและพิมพ์ต่างๆมาเป็นอันดับจนลงตัว พระเครื่องชุดนี้พบเห็นน้อยมาก บางคนที่มีเก็บไว้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นพระเครื่องที่หลวงปู่โตสร้าง เพราะไปยึดติดกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฝัก

  พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผนองค์นี้ หลายคนที่ศึกษายังไม่ดีพอจะคิดว่าเป็นพระขุนแผนเนื้อทับข้าว ซึ่งพระขุนแผนเนื้อทับข้าวนั้นเนื้อจะแกร่งกว่าพระขุนแผนองค์นี้เป็นอย่างมาก

  พิจารณาจากเนื้อพระก็เป็นของวัดระฆัง

   สัมผัสญาณองค์พระ

  มีญาณของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ในภัทรกัปนี้

  มีญาณหลวงปู่ใหญ่หรือหลวงปูโลกอุดร

  มีญาณขรัวตาแสง วัดมณีชลขันธ์

  มีญาณหลวงปู่โต

   เรื่องสัมผัสญาณมีหลายคนสัมผัสได้ และข้าฯก็ให้หลายคนสัมผัสรับรู้ได้โดยอธิษฐานจิตตามข้าฯ

   มีคนมาถามข้าฯว่า ข้าฯได้พระอะไรมา ข้าฯบอกว่าพระของหลวงปู่โตแล้วข้าฯก็ยื่นพระให้เขาดู เขารับแล้วรีบคืนทันที เขาบอกว่าอาจารย์ผมแน่นหน้อกจุกไปเลย ผมยังไม่ทันทานข้าวเที่ยงเลยผมจะทานไหวมั้ยเนี่ย พระของอาจารย์มีแต่แรงๆทั้งนั้น (เขาเคยสัมผัสพระของข้าฯไปหลายครั้ง)

   #พระแท้มีพลัง

   

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผนด้านหลัง


พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผนเนื้อและมวลสารแบบพระสมเด็จ

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผน

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผนเนื้อขาวนิยม

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผน

                                              พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขุนแผน


วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565

พระสมเด็จวัดระฆังEP14(หลังพระราชลัญจกร ร ๔)พลังพุทธานุภาพสูงมาก

พระสมเด็จวัดระฆังหลังพระราชลัญจกรรัชกาลที่ ๔ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ฟังและพิจารณาด้วยนะครับ จะเชื่อหรือไม่เชื่อจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธาก็พิจารณากันเองนะครับ เช้าวันหนึ่งผมกำลังจะสวดมนต์ได้มีคนส่งรูปพระสมเด็จมาให้ดู ผมเห็นด้านหลังองค์พระเป็นลายพระราชลัญจกรรัชกาลที่ 4 ตอนแรกผมไม่ค่อยจะสนใจมากนักเพราะจะเคยเห็นพระสายวังแบบนี้มาแล้ว แต่รูปพระที่ส่งมาเป็นเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์สวยเนื้อสวยมาก.. จี๊ดๆๆ กระแสพลังมาลงกลางกระหม่อมมากระตุ้นจักกระที่ ๗ ส่วนใหญ่ผมจะรู้สึกขนลุกมากกว่าที่จะเกิดอาการอย่างนี้ คือเหมือนมีเข็มมาแทงที่กลางกระหม่อม เสียวแปล๊บ จะเจ็บก็ไม่เจ็บฯ เป็นกระแสพลังขององค์พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์นี้หรือไม่ ผมก็เลยนัดเจอกันกับคนที่ส่งรูปพระมาให้ผมดู ขณะที่ผมคุยกับคนที่นำพระมาให้ผมๆก็หยิบพระองค์นี้มาแล้วอธิษฐานและส่งจิตไปให้เขาและถามเขาว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง เขาบอกว่า มีอาการตุ๊บๆที่หน้าผากครับ ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาผมทดสอบเขาๆจะรู้สึกร้อนผ่าวๆที่หน้า คล้ายๆหน้าเห่อเป็นลมพิษ ขณะที่คุยกันเขาก็จะรู้สึกตุ๊บๆที่หน้าผากตลอดเวลา เวลานี้ผมจะลองใช้วิธีนี้ในการให้คนอื่นสัมผัสพลังพระเองโดยผมหยิบพระขึ้นมาอธิษฐานและให้เขาสัมผัสเอง แทนที่เขาจะเป็นคนจับพระและอธิษฐานจากที่ผมบอกก็ต้องทดสอบหลายวิธี มีความก้าวหน้าและพัฒนาเรื่องการสัมผัสพลังที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งส่วนใหญ่อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากคนที่คุยกับผมแล้วผมได้ปรับมาใช้ฯ เมื่อผมนำพระสมเด็จวัดระฆังกลับมาที่บ้าน ผมก็นำกล้องมาส่องดูแล้วอธิษฐานถามถึงเหตุการณ์ที่ผมสัมผัสเมื่อเช้า อาการมาทันทีไม่สามารถยั้งได้ อ๊วก ๆ ๆ โอ้โห! ตั้งแต่สัมผัสพลังพระมายังไม่เคยเจอแบบนี้เลย เป็นเพราะอะไร มีอะไรพิเศษกว่าที่คิดไว้หรือยังไง ผมก็อธิษฐานว่าพระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้หลวงปู่โตร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยหรือไม่ เงียบ! ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอ๊! เป็นไปได้อย่างไร แปลกมากๆ ไม่ว่าจะจับองค์พระโดยตรงหรือดูรูปจากคอมฯ เพราะรูปจะใหญ่อาจจะชัดเจนขึ้น ก็ยังเงียบอีกไม่มีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้น ถ้าในยุคนี้ไม่ใช่หลวงปู่โตแล้วจะมีใครได้อีก ผมก็นึกไปถึงกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์เท่านั้นแหละกระแสพลังมาทันทีเลย ยังไม่ทันได้อธิษฐานแค่นึกกระแสพลังก็มาแล้ว พอนึกถึงหลวงพ่อเงินวัดบางคลานมาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยหรือไม่กระแสพลังก็มาทันทีเช่นกัน ผมคิดต่อไปว่าคงไม่ใช่เท่านี้แน่นอน นึกถึงพระโพธิสัตว์หลายร้อยพระองค์กระแสพลังก็มาด้วย(ไม่ไปไล่ตัวเลขว่าเท่าไหร่แน่นอน รู้เท่านี้ก็ดีแล้ว) ญาณพระมหาจักพรรดิก็มา อ้วก ๆ ๆ เอาอีกแล้วคราวนี้ทำเอาน้ำตาไหลอีกด้วย พอแหละเท่านี้ อ้วกจนแสบคอ ไม่ต้องอยากไปรู้อะไรอีก ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับพระราชลัญจกรรัชกาลที่ ๔เป็นสำคัญ (ใครจะเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ดี แล้วแต่วาสนาของท่าน) “พระจักรพรรดิราช” มีแก้ววิเศษทั้ง ๗ ประการ อันได้แก่ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว รัตนะ (หรือที่ในอุษาคเนย์เรียกอย่างจำเพาะเจาะจงลงไปว่า แก้วมณีโชติ) นางแก้ว ขุนคลังแก้ว และขุนพลแก้ว โดยแก้วแต่ละประการก็มีคุณลักษณะวิเศษแตกต่างกันไป๑ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว และม้าแก้ว เป็นสัญลักษณ์ของพระราชพาหนะ ที่จะนำเสด็จองค์พระจักรพรรดิไปยังสถานที่ต่างๆ โดยรวดเร็วตามพระทัยปรารถนา -แก้วมณีโชติ เป็นสัญลักษณ์แห่งการทำมาหากินของราษฎร -นางแก้ว เป็นที่จำเริญพระทัย -ขุนคลังแก้ว ทำให้เจริญพระราชทรัพย์ -ส่วนขุนพลแก้วนั้น ทำให้สำเร็จซึ่งสรรพกิจทั้งปวง และก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่ต้องเป็น “ราชบุตรผู้ใหญ่แห่งสมเด็จบรมจักรพรรดิราช” นั่นเอง ผมมีพระกริ่งปวเรศที่ปลุกเสกหลาย ๑๐ พรรษา ผมยังไม่มีอาการแบบนี้เลย มหัศจรรย์จริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ พระสมเด็จวัดระฆังหลังพระราชลัญจกรรัชกาลที่ ๔ หลวงปู่โตไม่ได้ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก เวลานั้นหลวงปู่โตไปไหนนะ เคยบอกไปแล้วว่าเวลานั้น หลวงปู่โตถูกรัชกาลที่ ๔ ขับออกจากอาณาจักรของพระองค์ พระสมเด็จวัดระฆังชุดนี้มีการลงรักไว้ด้วยแต่รักหลุดร่อนไปหมดแล้ว พิจารณาพิมพ์ทรงคมชัดการกดพิมพ์มีความพิถีพิถันมากองค์พระและพระราชลัญจกรติดคมชัดสวยงามเป็นพระสมเด็จที่สวยสมบูรณ์มาก ซุ้มระฆังหรือซุ้มครอบแก้วใหญ่แบบหวายผ่าซีกหน้าอกหนาใหญ่แบบอกกระบอกเนื้อพระด้านหน้าแตกลาย การแตกลายสลับซับซ้อนมองแล้วมีเสน่ห์มากกว่าเนื้อเรียบๆมีหนอนด้นปู่ไต่อาจจะมีปริแยกบ้าง แต่พระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้งามจริงๆ ฝีมือช่างหลวงฯ พระสมเด็จวัดระฆังหลังพระราชลัญจกรรัชกาลที่ ๔ มีสร้างไว้หลายครั้งหลายเนื้อ ซึ่งก็มีความแตกต่างเรื่องพลังและการปลุกเสกที่อาจมีพระสมเด็จบางชุดที่หลวงปู่โตปลุกเสก คือผมมีพระสมเด็จชุดนี้สัมผัสได้อย่างนี้ก็บอกไปตามที่สัมผัส ส่วนพระสมเด็จที่สร้างวาระอื่นผมไม่มีเก็บไว้ก็บอกอะไรไม่ได้ครับ http://ariyathum.blogspot.com/2020/05... https://www.facebook.com/PhraSomdejWa... 092 339 5410, 080 629 2955